การสร้างระบอบประชาธิปไตยที่มีความเข้มแข็งและสะท้อนความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง ไม่สามารถพึ่งพาแค่การลงคะแนนเสียงในวันเลือกตั้งเท่านั้น แต่ต้องเปิดช่องทางที่ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมโดยตรงกับสถาบันทางการเมืองต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา
แม้กฎหมายปัจจุบันจะให้สิทธิพื้นฐานแก่ประชาชนในการมีส่วนร่วมทางการเมือง เช่น การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย หรือการเสนอให้มีการจัดประชามติ แต่ยังมีอีกหลายช่องทางที่สามารถอำนวยความสะดวกและเพิ่มช่องทางการมีส่วนร่วมรูปแบบใหม่ๆ ที่กฎหมายในปัจจุบันยังไม่ครอบคลุม เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการตอบสนองต่อปัญหา ให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางของอำนาจได้อย่างแท้จริง
พรรคประชาชนจะยกระดับและขยายช่องทางการมีส่วนร่วมของประชาชนกับสถาบันทางการเมืองต่างๆ เพื่อสร้างประชาธิปไตยที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง มุ่งใน 4 ด้านหลัก
1. ยกระดับสิทธิทางกฎหมายในการเข้าชื่อเพื่อมีส่วนร่วม
อำนวยความสะดวกประชาชนในการเข้าชื่อ
กำหนดให้ทำได้ผ่าน ช่องทางออนไลน์ในทุกกรณี
จัดทำ ช่องทางกลาง สำหรับการเข้าชื่อในกรณีต่าง ๆ เช่น การเข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ, เสนอถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช., และเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น
ขยายสิทธิการเข้าชื่อที่ถูกรับรองโดยกฎหมาย
เพิ่มสิทธิในการเข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
เพิ่มสิทธิในการเข้าชื่อเสนอให้ท้องถิ่น จัดประชามติ ในประเด็นที่อยู่ในอำนาจของท้องถิ่น
เพิ่มสิทธิในการเข้าชื่อเสนอถอดถอน สส., สว., รัฐมนตรี, ศาลรัฐธรรมนูญ, องค์กรอิสระ และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่น ๆ
เพิ่มสิทธิในการเข้าชื่อเสนอข้อเรียกร้องต่อสภา โดยให้รัฐมนตรีตอบ หรือให้สภาพิจารณาเสนอเป็นญัตติเพื่ออภิปรายในที่ประชุมใหญ่
2. เปิดพื้นที่ให้ประชาชนตรวจสอบการทำงานอย่างโปร่งใส
เผยแพร่ข้อมูลการทำงานอย่างเป็นระบบ (Open Data)
จัดเก็บและเผยแพร่ข้อมูลการทำงานของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา (เช่น สถิติการเข้าประชุม, สถิติการลงคะแนน, บทอภิปรายรายบุคคล, สถานะของร่างกฎหมาย ในรูปแบบที่วิเคราะห์ต่อได้) ในรูปแบบที่ตรวจสอบได้ง่าย
เปิดเผยข้อมูลกระบวนการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ (เช่น ข้อมูลผู้สมัคร และบันทึกการลงมติของคณะกรรมการสรรหา) ในรูปแบบที่ตรวจสอบได้ง่าย
ถ่ายทอดการประชุมสำคัญ
ถ่ายทอดสดการประชุมคณะกรรมาธิการ (ยกเว้นกรณีจำเป็น)
ถ่ายทอดสดการแสดงวิสัยทัศน์ ของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
3. สนับสนุนให้พรรคการเมือง "เกิดง่าย อยู่ได้ ตายยาก"
"เกิดง่าย": ลดอุปสรรคและเงื่อนไขที่กีดกันการจัดตั้งพรรคใหม่ (เช่น จำนวนผู้ร่วมจัดตั้ง ทุนประเดิม) เพื่อให้ประชาชนมีตัวเลือกที่หลากหลาย
"อยู่ได้":
ปลดล็อกให้พรรคการเมือง ระดมทุนจากประชาชนและผู้บริจาครายย่อยได้ง่ายขึ้น (เช่น ขายสินค้าออนไลน์ได้, ออกใบเสร็จออนไลน์ได้)
ลดเงื่อนไขที่เพิ่มค่าใช้จ่ายด้านธุรการโดยไม่จำเป็น (เช่น การประชุมใหญ่จัดออนไลน์ได้)
"ตายยาก": ทบทวนฐานความผิดและอัตราโทษสำหรับพรรคการเมืองให้เหมาะสมและได้สัดส่วน (เช่น ทบทวนเงื่อนไขการยุบพรรคให้สอดคล้องหลักสากล โดยลงโทษคณะกรรมการบริหารหรือกรรมการรายบุคคลแทนการยุบทั้งพรรค)
4. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกกลุ่มอย่างเสมอภาค
การประเมินผลกระทบต่อประชาชนทุกกลุ่มก่อนออกกฎหมาย:
กำหนดให้มีการประเมินผลกระทบของร่างกฎหมายต่อเด็กและเยาวชน (Child and Youth Impact Assessment - CYIA) ในประเด็นที่เกี่ยวข้อง
กำหนดให้มีการประเมินผลกระทบของการจัดสรรงบประมาณต่อคนทุกเพศ (Gender-Responsive Budgeting - GRB)
ทลายอุปสรรคทางการเมือง:
ทบทวนและปรับลดอายุขั้นต่ำในการมีสิทธิทางการเมือง (เช่น อายุขั้นต่ำในการสมัครรับเลือกตั้ง)
คุ้มครองความปลอดภัยของคนทุกเพศ จากปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ และสร้างกลไกตรวจสอบที่เป็นอิสระ
ปฏิรูปองค์กรผู้แทนของเยาวชน: ปฏิรูป สภาเด็กและเยาวชน ให้มาจากการเลือกตั้งจากเด็กและเยาวชนในวงกว้าง และเพิ่มบทบาทเชิงนโยบายอย่างอิสระ (เช่น การมีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ไขกฎหมาย / การตั้งกระทู้ต่อฝ่ายบริหาร)
5. สนับสนุนงบประมาณแบบมีส่วนร่วมของประชาชน (PB)
ปลดล็อกกฎหมาย: ปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้ท้องถิ่นมีอำนาจในการผลักดันหรือออกระเบียบเพื่อรองรับการจัดทำงบประมาณแบบมีส่วนร่วม (Participatory Budgeting - PB)
กำหนดมาตรฐานกลาง: กำหนดมาตรฐานกลางในการกำกับดูแลการจัดทำ PB ของท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจฯ (ก.ก.ถ.)
สนับสนุนเทคโนโลยี: สนับสนุนการนำระบบกลางสำหรับการเสนอ-กลั่นกรอง-คัดเลือกโครงการผ่าน ช่องทางออนไลน์ มาใช้
พรรคประชาชนจะขับเคลื่อนนโยบายนี้ผ่านการแก้ไขและปรับปรุงกลไกทั้งในและนอกสภา
1. ผลักดันร่างแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ:
รัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ เช่น การเข้าชื่อเสนอถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การถ่ายทอดสดการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ การทบทวนอายุขั้นต่ำในการมีสิทธิทางการเมือง
พ.ร.บ. จัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ พ.ร.บ. ประชามติ เช่น การเข้าชื่อเสนอให้ท้องถิ่นจัดประชามติ การปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้ท้องถิ่นมีอำนาจในการจัดทำงบประมาณแบบมีส่วนร่วมของประชาชน (Participatory Budgeting)
พ.ร.บ. ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ เช่น ปฏิรูปสภาเด็กและเยาวชน
ข้อบังคับการประชุมสภา เช่น การถ่ายทอดสดการประชุมคณะกรรมาธิการ
2. ประสานและร่วมมือกับหน่วยงานรัฐเพื่อออกแบบกลไก: ให้สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพในการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น
ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เพื่อปรับปรุงระบบกลางทางกฎหมาย (ระบบรับฟังความเห็นออนไลน์ต่อร่างกฎหมาย)
ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพื่อจัดทำระบบกลางให้ประชาชนเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น สำหรับทุกท้องถิ่นทั่วประเทศ