สวัสดิการผ้าอนามัย

1. ภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่เท่าเทียมทางเพศ: ผ้าอนามัยเป็นรายจ่ายประจำที่ผู้หญิง หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉลี่ยต้องจ่าย 80–150 บาทต่อเดือน หรือสะสมตลอดชีวิตรวมถึง 60,000 บาทในบริบทที่ค่าจ้างขั้นต่ำหรือเงินเดือนเท่ากันทุกเพศ ผู้หญิงกลับต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายนี้เพิ่มเติมโดยไม่มีทางเลือก ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมทางเพศในสังคม

2. ผลกระทบต่อการศึกษาและสุขภาพ: การไม่มีผ้าอนามัยใช้หรือต้องใช้ของทดแทนที่ไม่ปลอดภัย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเรียน การเข้าร่วมกิจกรรม และความมั่นใจของเยาวชน การจัดสวัสดิการผ้าอนามัยฟรีให้เด็กนักเรียน จะสร้างผลกระทบเชิงบวกสูงที่สุด เพราะเป็นกลุ่มที่ยังไม่มีรายได้ และจะช่วยลดภาระระบบสาธารณสุขจากโรคติดเชื้อที่เกิดจากการใช้อุปกรณ์ที่ไม่ถูกสุขอนามัย

เราเสนอมาตรการคู่ขนานเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้หญิงและสร้างความเท่าเทียมทางเพศในสังคม

1. ผ้าอนามัยฟรีสำหรับเด็กและเยาวชนที่มีประจำเดือน 

2. งดเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับสินค้าผ้าอนามัย

1. สวัสดิการผ้าอนามัยฟรีในวัยเรียน:

   • ให้นักเรียนลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กลาง นักเรียนจะได้รับเครดิต 80 บาทต่อเดือน เพื่อใช้ในการเลือกซื้อผ้าอนามัยจากผู้ผลิตหลายรายที่ลงทะเบียนในเว็บไซต์และได้รับการรับรองมาตรฐาน โดยผู้ผลิตจะจัดส่งสินค้ารวมกันไปที่โรงเรียน

   • วงเงินงบประมาณ 3,450 ล้านบาทต่อปี นักเรียนได้รับประโยชน์ 3.6 ล้านคน

2. งดเว้น VAT สินค้าผ้าอนามัย: ออกพระราชกฤษฎีกาเพื่อยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าประเภทผ้าอนามัย ประเมินว่ากรอบงบประมาณอยู่ที่ 700 ล้านบาทต่อปี