ยกเลิกบังคับการเกณฑ์ทหาร สู่ทหารอาชีพ

ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ 100% เพิ่มสวัสดิการและค่าตอบแทนที่เป็นธรรม เพื่อสร้างกองทัพมืออาชีพที่โปร่งใสและตรวจสอบได้

ยกเลิกบังคับการเกณฑ์ทหาร สู่ทหารอาชีพ

ทำไมต้องแก้ปัญหา (WHY)

คุณภาพของกองทัพและความมั่นคงของประเทศขึ้นอยู่กับความสมัครใจและความมุ่งมั่นของพลทหารเป็นสำคัญ จากการศึกษาของ คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร พบข้อเท็จจริงว่าพลทหารที่สมัครใจมีความแตกต่างจากทหารเกณฑ์ที่ถูกบังคับผ่านการจับสลากอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้:

ประสิทธิภาพการทำงาน: พลทหารสมัครใจมีระเบียบวินัยสูงกว่า มีสถิติปัญหาการใช้ยาเสพติดต่ำกว่า และปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าในฐานะ "ทหารอาชีพ"

ขจัดต้นตอการทุจริต: การบังคับเกณฑ์ทหารเป็นบ่อเกิดของการเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อแลกกับการหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร รวมถึงปัญหา "ทหารผี" ที่ผู้บังคับบัญชาโอนเงินเดือนพลทหารเข้ากระเป๋าตนเองแลกกับการปล่อยตัวกลับบ้าน

ปกป้องเกียรติภูมิ: ยุติการนำพลทหารไปเป็น "พลทหารรับใช้" หรือใช้แรงงานในกิจการส่วนตัวของผู้บังคับบัญชา ซึ่งบั่นทอนศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของกองทัพ

การผลักดันให้พลทหารเป็นอาชีพที่มีค่าตอบแทนเป็นธรรม มีสวัสดิภาพที่ปลอดภัยจากการลงทัณฑ์ผิดกฎหมาย และมีความก้าวหน้าในสายอาชีพ จะเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้กองทัพไทยเข้มแข็งและพร้อมรับมือภัยคุกคามสมัยใหม่อย่างแท้จริง

 

เราจะทำอะไร (WHAT)

เราจะเปลี่ยนระบบบังคับสู่ความสมัครใจ 100% โดยมีมาตรการเบื้องต้นดังนี้:

1. ใช้ระบบทหารอาสา: อาศัยอำนาจตาม ประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง การรับบุคคลเข้าทำหน้าที่ทหารเป็นการชั่วคราว (ทหารอาสา) พ.ศ. 2565 เพื่อรับสมัครพลทหารมาทดแทนการตรวจเลือก (เกณฑ์ทหาร) แบบเดิม

2. ปรับรูปแบบการทำงานแบบมืออาชีพ: พลทหารที่ผ่านการฝึกพื้นฐานแล้ว สามารถปฏิบัติงานแบบ “เช้าไป-เย็นกลับ” หรือมีวันหยุดที่ถี่ขึ้น มีวิถีชีวิตไม่ต่างจากลูกจ้างส่วนราชการอื่น เพื่อสร้างสมดุลระหว่างหน้าที่และการดูแลครอบครัว

3. คุ้มครองสวัสดิภาพขั้นสูงสุด: บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อประกันความปลอดภัยของพลทหารจากการถูกลงโทษที่ผิดกฎหมาย และห้ามนำพลทหารไปใช้งานนอกเหนือภารกิจทางการทหารอย่างเด็ดขาด

 

ทำอย่างไรให้สำเร็จ (HOW)

ระยะสั้น: ปฏิรูประบบการรับสมัครและสวัสดิการ

1. เปิดรับสมัครทหารอาสา: ใช้สัญญาจ้าง 4-8 ปี แทนการเกณฑ์ทหาร พร้อมจัดทำระบบ Clearing House เพื่อจัดสรรผู้สมัครไปยังค่ายทหารต่างๆ ตามความประสงค์และตามความต้องการของหน่วย

2. สร้างแรงจูงใจด้านค่าตอบแทน: ออกคำสั่งเพิ่มค่าตอบแทนให้พลทหารที่สมัครใจเลื่อนปลดประจำการเดือนละ 500 บาท เพื่อรักษาผู้มีประสบการณ์ไว้ในกองทัพ

3. ยกระดับหลักสูตรการฝึก: ทบทวนหลักสูตรการฝึกทหารอาสาให้เหมาะสมต่อภัยคุกคามปัจจุบัน 

4. ปฏิบัติงานแบบ “เช้าไป-เย็นกลับ”: ปรับรูปแบบการปฏิบัติงานให้พลทหารที่ผ่านการฝึก และปรับตัวกับภารกิจได้แล้วให้เป็นแบบ “เช้าไป-เย็นกลับ” หรือมีการจัดกะการทำงานให้มีวันหยุด สอดคล้องกับโครงการพลทหารออนไลน์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้สมัครเลือกค่ายทหารใกล้บ้าน

5. ยกระดับความปลอดภัย: ปรับปรุงคำสั่งกระทรวงกลาโหมให้สอดคล้องกับ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 และ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551

6. ดูแลสวัสดิการตลอดชีวิต: ปรับปรุงสิทธิประโยชน์ให้พลทหารที่บาดเจ็บหรือทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ได้รับสิทธิในฐานะ “ทหารผ่านศึก” เทียบเท่านายทหารชั้นยศ โดยได้รับการดูแลต่อเนื่องตลอดชีวิตแทนการจ่ายเงินก้อนครั้งเดียว

ระยะกลาง: ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

• แก้ไขกฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561, พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. 2498 และ พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 เพื่อให้คดีทุจริตในกองทัพขึ้นศาลพลเรือน สร้างความมั่นใจในความปลอดภัยและหลักความเสมอภาค

ระยะยาว: สร้างระบบความมั่นคงที่ยั่งยืน

1. ปรับบทบาทหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน: เน้นการฝึกทักษะใหม่ที่จำเป็นต่อความมั่นคงให้แก่กำลังพลสำรองตาม พระราชบัญญัติกำลังพลสำรอง พ.ศ. 2558 เพื่อสนับสนุนภารกิจป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

2. สิทธิมนุษยชนสากล: ลงสัตยาบรรณใน พิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน (Optional Protocol to the Convention Against Torture - OPCAT) เพื่อให้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เข้าตรวจสอบค่ายทหารได้โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า

3. บูรณาการระดับชาติ: มอบหมายให้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ บรรจุหลักการพลทหารสมัครใจ 100% ลงในแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติและแผนความมั่นคงแห่งชาติ

4. แก้ไขกฎหมายหลัก: แก้ไข พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 กำหนดให้การเรียกบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการในยามปกติ ต้องมาจากการสมัครใจเท่านั้น