รากฐานของปัญหาตำรวจไทยมาจาก การรวมศูนย์อำนาจ การบริหาร การแต่งตั้งโยกย้าย และการจัดสรรงบประมาณไว้ที่ส่วนกลางเกือบทั้งหมด
การรวมศูนย์อำนาจทำให้ขาดความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหาในพื้นที่ และนโยบายจากส่วนกลางมักไม่สอดคล้องกับสภาพปัญหาที่แตกต่างกันในแต่ละจังหวัด นอกจากนี้ การแยกตำรวจออกจากกระทรวงมหาดไทย ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดขาดอำนาจในการตรวจสอบควบคุมตำรวจ แม้จะต้องรับผิดชอบการรักษาความสงบเรียบร้อยตามกฎหมายก็ตาม
การปฏิรูปตำรวจไทยครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการให้บริการ สร้างความเชื่อมั่นจากประชาชน และทำให้ตำรวจกลับมาเป็นหน่วยงานที่ยึดโยงกับหลักการประชาธิปไตยและการเคารพสิทธิมนุษยชน
เป้าหมายหลักของการปฏิรูปคือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจไปสู่ การกระจายอำนาจไปยังจังหวัด พร้อมปฏิรูประบบการศึกษาเพื่อสร้างตำรวจยุคใหม่ที่มี Service Mind และยึดโยงประชาชน
1. ปฏิรูปโครงสร้างอำนาจหลัก (ยกเลิก พ.ร.บ. เดิม)
เปลี่ยนสำนักงานตำรวจแห่งชาติในรูปแบบปัจจุบันไปเป็น คณะกรรมการนโยบายและการบริหารงานตำรวจ ซึ่งประกอบด้วย 4 ภารกิจหลักภายใต้โครงสร้างการบริหารเดียวกัน โดยมีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ดังนี้
1.1 ตำรวจส่วนพื้นที่ (ส่วนภูมิภาค)
หน้าที่: กระจายอำนาจสู่ระดับจังหวัด โดยมีคณะกรรมการในจังหวัดทำหน้าที่กำกับดูแลและตรวจสอบ
เป้าหมาย: เพื่อให้ตำรวจเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและเข้าใจปัญหาในพื้นที่อย่างแท้จริง
1.2 ตำรวจส่วนกลาง
หน้าที่: ดูแลงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่มีความเฉพาะทางหรือซับซ้อน
เป้าหมาย: ทำหน้าที่ถ่วงดุลการทำงานของตำรวจส่วนอื่น ๆ
1.3 ตำรวจส่วนตรวจสอบ
หน้าที่: ตรวจสอบการทำงานของตำรวจด้วยกันเองอย่างเป็นธรรมและเด็ดขาด โดยเป็นเจ้าหน้าที่ที่รับบรรจุมาเพื่อภารกิจนี้โดยเฉพาะ
เป้าหมาย: ตัดขาดจากการแทรกแซงในระบบผู้บังคับบัญชาแบบเดิม
1.4 ส่วนบริหารงบประมาณและงานอำนวยการ
หน้าที่: อยู่ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายฯ
เป้าหมาย: บริหารจัดการงานในภาพรวมและดูแลด้านงบประมาณทั้งหมด
2. ปฏิรูปสถาบันการศึกษาตำรวจ
• ยกเลิกระบอบทหาร: ปฏิรูประบบการศึกษาเพื่อลดการขัดเกลาในระบอบทหารที่เน้นการรับคำสั่ง
• ยกระดับวิชาการ: เปลี่ยนรูปแบบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (สามพราน) ไปสู่การเป็น สถาบันวิชาการตำรวจหรือสถาบันการบังคับใช้กฎหมาย
• ความเป็นอิสระ: จัดตั้งสถาบันใหม่นี้โดย พ.ร.บ. เฉพาะ ให้อยู่นอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติและได้รับความเป็นอิสระทางวิชาการ
• ยกระดับคุณวุฒิ: เปิดหลักสูตรจนถึงระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ยกเลิกการแบ่งชั้นยศ และกำหนดคุณวุฒิการศึกษาสูงสุดถึงระดับปริญญาเอก เพื่อเสริมสร้างความรู้ความสามารถตามหลักนิติธรรมอย่างแท้จริง
1. จัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูป
• ตั้งคณะกรรมการที่มีผู้บริหารภาครัฐ, ผู้แทนจากภาคประชาชน, และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการศึกษาวิจัยและจัดทำแผนงาน
• คณะกรรมการนี้จะทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบการจัดสรรงบประมาณ, การพัฒนากฎระเบียบ และตรวจสอบประสิทธิภาพของตำรวจในทุกระดับ
2. ตรากฎหมายหลักเพื่อเปลี่ยนโครงสร้าง
• ยกเลิก พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565
• เสนอร่างกฎหมายใหม่ คือ พ.ร.บ. คณะกรรมการนโยบายและการบริหารงานตำรวจ พ.ศ. ... เพื่อแยกอำนาจตำรวจออกเป็น 4 ภารกิจหลัก (ตำรวจส่วนพื้นที่, ส่วนกลาง, ส่วนตรวจสอบ, ส่วนบริหาร) ดังที่กล่าวข้างต้น
3. พัฒนาระบบฝึกอบรมและสถาบันวิชาการ
• พัฒนาเนื้อหาการฝึกอบรม: ปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้มุ่งเน้นการเข้าใจประชาชน, การให้บริการ, การสร้างจิตสำนึกในการรักษาสิทธิมนุษยชน และการใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน
• จัดตั้งสถาบันวิชาการตำรวจ: จัดตั้งสถาบันแห่งใหม่ตามหลักการข้างต้น โดยเปิดหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับระบบไต่สวนและพัฒนาทักษะผู้บริหารหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นในประเทศ