1. งบประมาณไม่เพียงพอและล่าช้า: ท้องถิ่นที่รับผิดชอบไฟป่าในป่าสงวนมักถูกตัดงบประมาณจากระดับพันล้านเหลือเพียงหลักร้อยล้านบาททั่วประเทศ ทำให้ต้องรอ "งบกลาง" ซึ่งมักจะมาถึงหลังจากไฟดับไปแล้ว
2. ขาดแคลนอุปกรณ์และเทคโนโลยี: เจ้าหน้าที่ขาดอุปกรณ์ทุ่นแรงพื้นฐาน เช่น รถมอเตอร์ไซค์วิบาก, เครื่อง AED, และที่สำคัญที่สุดคือ โดรนตรวจจับความร้อน ทำให้หลายครั้งเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าเข้าป่าลึกอย่างยากลำบากแต่กลับ "หลงพิกัด" เพราะไม่มีข้อมูลที่แม่นยำ
3. สวัสดิการย่ำแย่และอุปกรณ์ใช้ไม่ได้จริง: อาสาดับไฟป่าได้รับค่าตอบแทนน้อยนิด รัฐไม่สามารถจัดซื้อประกันชีวิตให้ได้เนื่องจากติดระเบียบ และการบังคับซื้ออุปกรณ์ที่ใช้งานไม่ได้จริง เช่น "ลาโค่" หรือไม้ตบไฟ ในพื้นที่ที่ควรใช้เครื่องเป่าลมหรือโดรน
4. ข้อมูลไม่ทันการณ์: ข้อมูลจุดความร้อนจากดาวเทียมที่รายงานเพียง 2 ครั้งต่อวัน ไม่เพียงพอต่อการควบคุมไฟที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว
พรรคประชาชนเสนอการยกระดับการจัดการไฟป่าให้เป็น ระบบบริหารความเสี่ยงภัยพิบัติ ที่สมบูรณ์ ตั้งแต่การป้องกันไปจนถึงการฟื้นฟู โดยมีเป้าหมายหลักคือ
• งบประมาณรายจ่ายประจำที่ชัดเจน: เลิกพึ่งพางบกลางเป็นหลัก และจัดสรรงบประมาณล่วงหน้าให้เพียงพอต่อภารกิจ
• ระบบข้อมูลและบัญชาการเอกภาพ: ใช้เทคโนโลยีเรียลไทม์เชื่อมโยงข้อมูลระดับพื้นที่สู่ศูนย์บัญชาการ
• กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น: ให้อำนาจและงบประมาณ อบจ. และ อบต. ในการจัดการปัญหาตามบริบทพื้นที่
• ยกระดับสวัสดิการเจ้าหน้าที่: คุ้มครองความปลอดภัย สิทธิ และจัดหาประกันชีวิตให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกคนอย่างเป็นธรรม
1. เทคโนโลยีเฝ้าระวังและการบิน (Air & Space Tech)
• ดาวเทียมเรียลไทม์: พัฒนาการใช้ดาวเทียมตรวจจับ Hotspot ให้มีความถี่สูงขึ้น และส่งเสริมดาวเทียมขนาดเล็กของไทยเองเพื่อให้ตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์
• ศูนย์ควบคุมการบินเฉพาะกิจ: บูรณาการใช้เฮลิคอปเตอร์และโดรน พร้อมปรับกฎระเบียบให้เจ้าหน้าที่ใช้โดรนในพื้นที่ภัยพิบัติได้อย่างคล่องตัวโดยไม่ผิดกฎหมาย
• Tracking การจัดการเชื้อเพลิง: ใช้ระบบดิจิทัลติดตามว่าพื้นที่ไหนมีการชิงเผาหรือจัดการเชื้อเพลิงไปแล้วบ้าง เพื่อประเมินความเสี่ยงล่วงหน้า
2. ปลดล็อกท้องถิ่นและงบประมาณ
• แก้กฎหมายล็อกสเปก: แก้ไขระเบียบจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้ท้องถิ่นซื้ออุปกรณ์ที่ "เหมาะกับป่าในพื้นที่" เช่น เครื่องเป่าลมกำลังแรงแทนไม้ตบไฟ
• งบประมาณสู่พื้นที่: จัดสรรงบประมาณให้ อบจ. ทำงานร่วมกับชุมชนในการสร้างแนวกันไฟและเตรียมทีมตอบสนองไว
3. สวัสดิการและอุปกรณ์ความปลอดภัย
• ปรับสัญญาจ้างทีมดับไฟป่า: เปลี่ยนแรงงานรายวันเป็นสัญญาจ้าง 3-5 ปี เพื่อสร้างความมั่นคงและสะสมความเชี่ยวชาญ
• ประกันชีวิต 100%: รัฐสนับสนุนงบประมาณซื้อประกันชีวิตและอุบัติเหตุให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกคน
• สนับสนุนอุปกรณ์ในจุดอับสัญญาณ: จัดหา GPS และวิทยุสื่อสารที่ใช้งานได้แม้อยู่ในจุดอับสัญญาณ พร้อมเครื่อง AED และชุดออกซิเจนประจำทีม
4. ให้ประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตา
• เชื่อมโยงสิทธิที่ดิน: แก้ไขปัญหาไฟป่าที่ต้นตอโดยเชื่อมโยงกับการจัดการสิทธิที่ดินทำกินในเขตป่า เพื่อให้ชาวบ้านร่วมเป็นหูเป็นตาและดูแลรักษาป่าร่วมกับรัฐ