พรรคประชาชนมุ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านจากการอนุรักษ์เชิงตั้งรับ สู่การฟื้นฟูเชิงรุกเพื่อสร้างความยั่งยืนในทุกระดับ ผ่าน 9 ยุทธศาสตร์สำคัญ:
1. กระจายอำนาจการคุ้มครองสู่ท้องถิ่นและชุมชน
- สนับสนุนงบประมาณและความรู้ให้ท้องถิ่นประกาศ "เขตคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ" ในพื้นที่สำคัญ เช่น เทือกเขาหินปูน พื้นที่ชุ่มน้ำ และทรัพยากรชายฝั่ง
- จัดทำบัญชีทรัพยากรชีวภาพและแผนการบริหารจัดการพื้นที่ รวมถึงคุ้มครองผลประโยชน์ (Benefit Sharing) ให้ชุมชนได้รับความเป็นธรรมหากมีการนำทรัพยากรไปใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
2. ปฏิรูปผังเมืองและการประเมินผลกระทบ (EIA)
- กำหนดให้การพัฒนาผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐานต้องคำนึงถึงความหลากหลายทางชีวภาพเป็นลำดับแรก
- ปฏิรูปกระบวนการ การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment - EIA) โดยต้องพิจารณาผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพอย่างเข้มข้น และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการศึกษาอย่างแท้จริง
3. ยกระดับการจัดการพื้นที่อนุรักษ์
- ระบบลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (Smart Patrol): เพิ่มงบประมาณ อุปกรณ์ และสวัสดิการทีมพิทักษ์ป่าและทีมดับไฟป่า
- การฟื้นฟูและบริหารจัดการ: ฟื้นฟูระบบนิเวศริมน้ำ กำหนด ขีดความสามารถในการรองรับ (Carrying Capacity) สำหรับการท่องเที่ยว และปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ
- เคารพสิทธิชุมชน: จัดการพื้นที่อนุรักษ์โดยไม่ละเมิดสิทธิของชุมชนดั้งเดิม และส่งเสริมการจัดการร่วมระหว่างรัฐและประชาชน
4. เกษตรหลากหลายสร้างรายได้ยั่งยืน
- สนับสนุนเกษตรกรให้ทำเกษตรผสมผสาน (เช่น ปลูกพืชแซมป่า) และส่งเสริมการตลาดพืชพื้นบ้านหายาก
- การประกันผลตอบแทน: ประกันรายได้ 500-1,000 บาท/เดือน ผ่านการรับซื้อผลผลิตเข้าสู่โครงการอาหารในโรงเรียนและศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
5. จูงใจภาคเอกชนด้วยมาตรการภาษี (Negative Land Tax)
- ลดหย่อนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้กับพื้นที่เอกชนที่ให้บริการทางระบบนิเวศ (เช่น สวนสมรม หรือพื้นที่ซับน้ำ)
- พัฒนา ดัชนีความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Index) ร่วมกับนักศึกษาและชุมชนเพื่อติดตามผลการอนุรักษ์ในพื้นที่เอกชน
6. ฟื้นคืนธรรมชาติสู่เมือง (Urban Rewilding)
- ใช้ การแก้ปัญหาโดยอาศัยธรรมชาติเป็นพื้นฐาน (Nature-based Solutions - NbS) ในการออกแบบเมือง เช่น สวนรับน้ำหรือพื้นที่หน่วงน้ำ เพื่อลดอุทกภัยและลดโดมความร้อน
- สนับสนุนกิจกรรมทางธรรมชาติที่สร้างสรรค์ เช่น การอาบป่า (Forest Bathing) และการดูนกดูนากในเขตเมือง
7. จัดการชนิดพันธุ์ต่างถิ่น (Alien Species) อย่างจริงจัง
- สร้างระบบขึ้นทะเบียนและจดแจ้งชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่เข้มงวด
- ควบคุมการนำเข้าและการเพาะเลี้ยง พร้อมมีหน่วยปฏิบัติการฟื้นฟูระบบนิเวศที่ถูกรุกรานโดยทันที
8. ยกระดับการศึกษาและบุคลากรด้านธรรมชาติวิทยา
- สื่อและหลักสูตรท้องถิ่น: สนับสนุนงบประมาณผลิตสื่อการเรียนรู้ที่อิงกับนิเวศในพื้นที่ โดยเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง (Experiential Learning) เช่น โครงงานนักสืบสายน้ำ เดินป่า และกิจกรรมศึกษาธรรมชาติ
- พัฒนาวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ: เสริมสร้างศักยภาพครูและวิทยากรด้านธรรมชาติวิทยาระดับพื้นที่ เพื่อเป็นที่ปรึกษาในการสร้างความเข้าใจเรื่องการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
- บูรณาการทุกระดับ: เชื่อมโยงความรู้ด้านความหลากหลายทางชีวภาพเข้ากับระบบการศึกษาทั้งในและนอกระบบ ผ่านการทำโครงงานเชิงสำรวจในชั้นเรียนทุกระดับ
9. สร้างเส้นทางอาชีพและส่งเสริมการศึกษาธรรมชาติวิทยา
-
ส่งเสริมการผลิตนักธรรมชาติวิทยาและนักนิเวศวิทยา ในทุกระดับการศึกษา (ปริญญาตรีถึงปริญญาเอก) ทั้งในสถาบันการศึกษา ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในท้องถิ่น และในภาคเอกชน
-
สนุนการศึกษาวิจัยเรื่องระบบนิเวศวัฒนธรรมที่รักษาความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมุ่งหวังให้ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำในงานด้านอนุรักษ์ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในระดับภูมิภาค