การจัดการดินและปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต

การจัดการดินและปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต

ทำไมต้องแก้ปัญหา (WHY)

ปัญหาความอุดมสมบูรณ์ของดินในประเทศไทยที่ลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านปริมาณธาตุอาหารหลักและอินทรีย์วัตถุในดิน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลิตภาพการผลิต (Productivity) ของภาคเกษตรไทยถดถอยลง สถานการณ์ดังกล่าวบีบคั้นให้เกษตรกรจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีมากขึ้นเพื่อให้ได้ผลผลิตเท่าเดิม ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่กลับมีแนวโน้มลดต่ำลง

นอกจากปัญหาเชิงกายภาพของดินแล้ว ยังพบปัญหาเชิงพฤติกรรมและองค์ความรู้ โดยเกษตรกรส่วนหนึ่งยังขาดความเข้าใจในการใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ มีการใช้ปุ๋ยไม่ถูกสูตร ไม่ถูกวิธี ไม่ถูกเวลา และไม่ถูกอัตราส่วนที่เหมาะสมกับความต้องการของพืชและสภาพดิน นโยบายนี้จึงถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเหล่านี้ เพื่อลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นและฟื้นฟูฐานทรัพยากรการเกษตรให้ยั่งยืน

 

พรรคประชาชนจะทำอะไร (WHAT)

หัวใจสำคัญของนโยบายนี้คือการเปลี่ยนรูปแบบการสนับสนุนของภาครัฐ จากการอุดหนุนแบบหว่านแห เป็น "การสนับสนุนแบบมีเป้าหมาย" (Targeted Subsidy) โดยรัฐบาลจะทำหน้าที่สนับสนุนงบประมาณและทรัพยากรเพื่อให้เป็น "ทางเลือก" สำหรับเกษตรกรในการปรับปรุงบำรุงดิน

ขอบเขตการดำเนินงานครอบคลุมกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การลดการเผาฟางและตอซัง, การส่งเสริมการตรวจวิเคราะห์ค่าดิน, การส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอย่างแม่นยำตามค่าวิเคราะห์, การเพิ่มอินทรีย์วัตถุในดิน, การปลูกพืชปุ๋ยสดเพื่อพักดิน, และการปรับเปลี่ยนชนิดพืชที่ปลูกในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม (Zoning)

การดำเนินนโยบายใช้วิธีการจูงใจทางการเงินตามระดับความเข้มข้นของการปฏิบัติเพื่อกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนี้:

  • ระดับที่ 1: การลดผลกระทบเบื้องต้น
    สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเตรียมดิน 250 บาท/ไร่ สำหรับเกษตรกรที่ "ไม่เผา" วัสดุทางการเกษตร

  • ระดับที่ 2: การเพิ่มประสิทธิภาพ
    สนับสนุน 500 บาท/ไร่ สำหรับเกษตรกรที่ "ไม่เผา" ควบคู่กับ "การใช้ปุ๋ยแม่นยำ" (ตามค่าวิเคราะห์ดิน) หรือ "การเพิ่มอินทรีย์วัตถุ" ในแปลงเกษตร

  • ระดับที่ 3: การฟื้นฟูทรัพยากร
    สนับสนุน 1,000 บาท/ไร่ สำหรับเกษตรกรที่ "ไม่เผา" และทำการ "พักดินเพื่อปลูกพืชปุ๋ยสด" จำนวน 1 รอบ เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างดินตามธรรมชาติ

  • ระดับที่ 4: การปรับโครงสร้างการผลิต
    สนับสนุน 2,000 บาท/ไร่ สำหรับเกษตรกรที่ต้องการ "ปรับเปลี่ยนพืช" ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพดิน (โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี และจำกัดพื้นที่ไม่เกิน 20 ไร่/ราย)

ทำอย่างไรให้สำเร็จ (HOW)

เพื่อให้การสนับสนุนแบบมีเป้าหมายเกิดประสิทธิภาพสูงสุด รัฐบาลจะดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่: ใช้เทคโนโลยีแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-map) ในการวิเคราะห์ระดับความอุดมสมบูรณ์ของดินและความเหมาะสมของพืชในแต่ละพื้นที่

  2. การสำรวจภาคสนาม: ดำเนินการสุ่มสำรวจและเก็บตัวอย่างดินเพื่อตรวจวิเคราะห์ความอุดมสมบูรณ์จริงทั่วประเทศ เพื่อสร้างฐานข้อมูลที่แม่นยำ

  3. การสร้างความเข้าใจ: เจ้าหน้าที่รัฐสื่อสารและทำความเข้าใจกับเกษตรกรเกี่ยวกับ "ทางเลือกของแพ็กเกจนโยบาย" ที่เหมาะสมกับค่าการวิเคราะห์ดินและพืชของเกษตรกรแต่ละราย

  4. การตัดสินใจของเกษตรกร: เกษตรกรทำการเลือกทางเลือก (Option) ที่เหมาะสมกับตนเองและสมัครขอรับการสนับสนุนตามระดับขั้นที่กำหนด

  5. การติดตามและประเมินผล: ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน "Dragonfly" ในการติดตามผลการดำเนินงานในแปลงเกษตรและประเมินความสำเร็จของโครงการ

หากดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ คาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ภายในระยะเวลา 2 ปี ดังนี้:

  • ด้านสิ่งแวดล้อม: สามารถลดปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตรได้อย่างเป็นรูปธรรม

  • ด้านผลิตภาพ: เพิ่มผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ในพื้นที่ดำเนินการได้ 10%

  • ด้านต้นทุน: ลดต้นทุนการผลิตด้านปุ๋ยเคมีลงได้ 10% จากการใช้ปุ๋ยที่แม่นยำ ถูกสูตร ถูกอัตรา ถูกเวลา และถูกวิธี

  • ด้านโครงสร้าง: ลดพื้นที่การเพาะปลูกที่ไม่เหมาะสม (Zoning) ลงได้จำนวน 1 ล้านไร่

นโยบายนี้กำหนดกรอบงบประมาณในลักษณะ "ต้นทุนต่อหน่วยพื้นที่" (Unit Cost) เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นตามจำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ โดยแบ่งอัตราการสนับสนุนตามกิจกรรมดังนี้:

  1. งบประมาณสนับสนุนการเผา
    • อัตราสนับสนุน: 250 บาท/ไร่ 

    • กลุ่มเป้าหมาย: พื้นที่เกษตรกรรม 50 ล้านไร่ 

    • งบประมาณรวม: 12,500 ล้านบาท/ปี (ตั้งงบประมาณเท่ากันทั้งปี 2570 และ 2571)

  2. งบประมาณการวิเคราะห์ค่าดินและการใช้ปุ๋ยแม่นยำ
    • อัตราสนับสนุน: 500 บาท/ไร่ (สำหรับผู้ไม่เผาและใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์/เพิ่มอินทรีย์วัตถุ) 

    • กลุ่มเป้าหมาย: พื้นที่ 10 ล้านไร่ 

    • งบประมาณรวม: 5,000 ล้านบาท/ปี (ตั้งงบประมาณเท่ากันทั้งปี 2570 และ 2571) 

  3. งบประมาณการพักดินและปลูกพืชบำรุงดิน
    • อัตราสนับสนุน: 1,000 บาท/ไร่ (สำหรับผู้ไม่เผาและพักดินปลูกปุ๋ยพืชสด) 

    • ปี 2570: เป้าหมาย 100,000 ไร่ ใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท 

    • ปี 2571: ขยายเป้าหมายเป็น 1,000,000 ไร่ ใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท 

  4. งบประมาณการปรับเปลี่ยนพืชในพื้นที่ไม่เหมาะสม (Zoning)
    • อัตราสนับสนุน: 2,000 บาท/ไร่ (ทยอยจ่ายใน 2 ปี สำหรับพื้นที่ไม่เหมาะสม) 

    • ปี 2570: เป้าหมาย 100,000 ไร่ ใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท 

    • ปี 2571: ขยายเป้าหมายเป็น 1,000,000 ไร่ ใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านบาท 

ภาพรวมงบประมาณ

  • ปีงบประมาณ 2570: รวมประมาณ 17,800 ล้านบาท

  • ปีงบประมาณ 2571: รวมประมาณ 20,500 ล้านบาท