ความเหลื่อมล้ำรุนแรง: ข้อมูลระบุว่าเด็กจากครอบครัวที่รวยที่สุด 10% มีโอกาสเรียนต่อปริญญาตรีถึง 71% ในขณะที่เด็กจากครอบครัวที่จนที่สุด 10% มีโอกาสเข้าถึงเพียง 6% เท่านั้น
วิกฤตสภาพคล่อง: ปัจจุบัน กยศ. ปล่อยกู้ปีละกว่า 40,000 ล้านบาท แต่ได้รับเงินคืนเพียง 25,000 ล้านบาท ทำให้ต้องพึ่งพางบประมาณแผ่นดินมากขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้การบริหารจัดการที่ยังขาดประสิทธิภาพในบางจุด
หลักสูตรไม่ตอบโจทย์: มีเพียงครึ่งหนึ่งของหลักสูตรอุดมศึกษาที่สร้างทักษะจำเป็นสำหรับอนาคต (ตามการประเมินของกระทรวง อว.) ทำให้ผู้กู้ยืม กยศ. จำนวนมากเรียนจบมาแล้วไม่มีงานทำ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอจะใช้หนี้
เราต้องการปฏิรูปและยกระดับบทบาทของ กยศ. เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและวางหลักประกันให้เด็กทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษาอย่างเสมอภาค ผ่าน 6 แนวทางหลัก:
วางแผนงบประมาณอย่างยั่งยืน: กำหนดบทบาทรัฐต่อการเรียนในระดับอุดมศึกษาให้ชัดเจน เพื่อประกอบการคาดการณ์และวางแผนการจัดสรรงบประมาณอุดหนุน กยศ. ในแต่ละปี
กำหนดสัดส่วนรายได้ของ กยศ. ระหว่างการอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน กับการบริหารกองทุนโดย กยศ. เพื่อให้ กยศ. มีเป้าหมายที่เป็นจริงในการบริหารจัดการรายรับ-รายจ่ายของกองทุน
ส่งเสริมเลือกเรียนอย่างมีข้อมูล: ส่งเสริมให้ผู้กู้ยืม กยศ. เข้าถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีคุณภาพ โดยการ
เปิดเผยข้อมูล (ทั้งที่ กยศ. มี และที่ กยศ. ต้องเชื่อมกับหน่วยงานอื่น) เกี่ยวกับผลลัพธ์ของผู้กู้ยืมที่ผ่านมาในแต่ละหลักสูตร (เช่น อัตราการจ้างงาน รายได้เฉลี่ยหลังเรียนจบ) เพื่อให้ผู้กู้ยืมรายใหม่มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่รอบด้าน
แนะแนวหรือเพิ่มแรงจูงใจให้ผู้กู้ยืมตัดสินใจเลือกเรียนในหลักสูตรที่มีแนวโน้มจะนำไปสู่การมีงานที่รายได้สูงและมั่นคง
ยกเลิกการบังคับกิจกรรมจิตสาธาณะ ที่บังคับเฉพาะกับนักศึกษาที่กู้ยืม กยศ. (เช่น ปลูกต้นไม้ บริจาคเลือด) หรือกิจกรรมอื่นที่ทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติระหว่างนักศึกษาที่กู้ กยศ. กับนักศึกษาที่ไม่ได้กู้
เพื่อให้นักศึกษาที่กู้ยืม กยศ. มีเวลาและความยืดหยุ่นในการเลือกทำกิจกรรมนอกห้องเรียน เท่าเทียมกับนักศึกษากลุ่มอื่น
ปรับปรุงเกณฑ์การใช้คืนหนี้ ยึดหลัก “จ่ายคืนเมื่อจ่ายไหว” (Income-Contingent Loan)
ปรับยอดชำระหนี้ให้แปรผันตามรายได้และความสามารถในการชำระหนี้
หากรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด: กำหนดให้ผู้กู้ยืมยังไม่ต้องชำระหนี้ หรือขยายช่วงปลอดหนี้ให้ยาวนานขึ้น
หากรายได้สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด: กำหนดให้ผู้กู้ยืมชำระหนี้ โดยการคำนวณยอดชำระหนี้ที่คิดเป็น % ของรายได้ที่เกินเกณฑ์
ปรับโครงสร้าง-แผน-ยอดชำระหนี้ ให้สอดคล้องกับกลุ่มอาชีพของผู้กู้ยืม เช่น ปรับตารางการชำระหนี้ของเกษตรตามฤดูกาลผลิตของพืชผลทางการเกษตรต่างๆ
กยศ. ช่วยหางาน: ยกระดับบทบาท กยศ. ในการช่วยหางานและยกระดับทักษะให้กับผู้กู้ยืม ร่วมกับกรมจัดหางาน เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับผู้กู้ยืมและเพิ่มประสิทธิภาพในการชำระหนี้ เช่น
เชื่อมโยงข้อมูลเกี่ยวกับผู้กู้ยืมที่กำลังจะเรียนจบให้กับผู้จ้าง เพื่ออำนวยความสะดวกในการจับคู่หางาน
ลดภาระทางธุรการและลดหย่อนภาษีให้กับบริษัทที่จ้างผู้กู้ยืม กยศ. มาทำงาน
ออกแบบเงินกู้ประเภทพิเศษเพื่อนำผู้กู้ยืม กยศ. ที่ยังว่างงานไปยกระดับทักษะในด้านที่มีผู้ประกอบการพร้อมจ้างงานเมื่ออบรมจบ
บริหารอย่างมืออาชีพ: ปรับโครงสร้างการทำงานของ กยศ. เพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น
ทบทวนองค์ประกอบของคณะกรรมการ กยศ. เพื่อเพิ่มผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและเพิ่มกลไกรับผิดรับชอบทางการเมือง
ปลดล็อกความเป็นไปได้ในการจ้างเหมาภาคเอกชน (outsource) ในการดำเนินการงานสนับสนุนบางประเภท (เช่น การติดต่อหาผู้กู้ยืมเพื่อแจ้งเตือนให้ชำระหนี้) ทั้งนี้โดยเปิดให้มีการแข่งขันของเอกชน
แก้ไข พ.ร.บ. กยศ. :
เพิ่มสภาพบังคับและประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ
ปรับปรุงเกณฑ์เรื่องการปลอดหนี้ที่ถูกกำหนดใน พ.ร.บ.
ทบทวนองค์ประกอบของคณะกรรมการ กยศ.
ออกข้อกำหนดใหม่เพื่อความเป็นธรรม: ขับเคลื่อนให้บอร์ด กยศ. ออกหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ. กยศ. เช่น
ยกเลิกการบังคับกิจกรรมจิตสาธาณะที่บังคับเฉพาะนักศึกษาที่กู้ยืม กยศ.
ออกมาตรการส่งเสริมหรือจูงใจให้เกิดการจ้างงานผู้กู้ยืม กยศ.
จัดสรรงบประมาณให้เพียงพอ: วางแผนงบประมาณในการอุดหนุน กยศ. เพิ่มเติมจากรายรับของ กยศ. จากการชำระหนี้ของผู้กู้ยืม เพื่อให้ กยศ. มีสภาพคล่องเพียงพอในการปล่อยกู้และเพิ่มโอกาสให้กับผู้เรียนในการเข้าถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษา ตามแนวนโยบายของพรรคประชาชน