ประเทศไทยกำลังเผชิญกับ เศรษฐกิจทางเดียว (Linear Economy) ที่เน้น “เก็บ–ขน–กำจัด” ซึ่งไม่ยั่งยืนและสร้างมลพิษตกค้างจำนวนมาก:
• วิกฤตหลุมฝังกลบ: ปัจจุบันมีสถานที่กำจัดขยะที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ (เทกอง) มากกว่า 2,000 แห่ง ทั่วประเทศ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชนอย่างรุนแรง
• โครงสร้างที่ไร้เอกภาพ: องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ส่วนใหญ่ขาดงบประมาณและบุคลากรเชี่ยวชาญ ระบบรีไซเคิลยังพึ่งพาภาคไม่เป็นทางการ (ซาเล้ง) เป็นหลัก ขณะที่ค่าธรรมเนียมขยะในปัจจุบันยังไม่สะท้อนต้นทุนจริง
• ความไม่คุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์: การบริหารจัดการขยะแบบแยกส่วนตามเขตปกครอง (คลัสเตอร์ขนาดเล็ก) ทำให้ปริมาณขยะไม่เพียงพอต่อการลงทุนเทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่งผลให้โรงไฟฟ้าขยะหลายแห่งไม่คุ้มทุนและสร้างมลพิษเพิ่ม
เราเสนอการปฏิรูปเชิงโครงสร้างผ่านกฎหมายใหม่และการปรับบทบาทหน้าที่ เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy):
1. ปฏิรูปกฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแล: ตรา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารจัดการของเสียและการหมุนเวียนทรัพยากร เพื่อรวมกฎหมายจัดการขยะที่กระจัดกระจายให้เป็นเอกภาพ พร้อมจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลระดับชาติ
2. ปรับบทบาทท้องถิ่น:
• องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.): ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารจัดการขยะรวมระดับจังหวัด (ศูนย์รวบรวมและกำจัดปลายทาง)
• อปท. ระดับพื้นฐาน (เทศบาล/อบต.): มุ่งเน้นภารกิจคัดแยกขยะที่ต้นทาง (อินทรีย์, พลาสติก, แก้ว, กระดาษ, ขยะอันตราย)
• ควบรวมคลัสเตอร์ (Cluster): ปรับลดจุดกำจัดขยะให้เหลือประมาณ 90 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อสร้างความคุ้มค่าในการจัดการ
3. ขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility - EPR): บังคับใช้กลไกที่ผู้ผลิตต้องรับผิดชอบซากผลิตภัณฑ์เฉพาะประเภท เช่น ขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-waste), ซากรถยนต์ และบรรจุภัณฑ์ เพื่อลดภาระของท้องถิ่น
พรรคประชาชนจะขับเคลื่อนผ่านแผนงานต่อเนื่อง 4 ปี โดยมุ่งเป้าให้การกำจัดขยะที่ไม่ถูกหลักวิชาการลดลงเป็น "ศูนย์" ภายใน 3 ปี:
• ระยะเริ่มต้น (ปีที่ 1-2): ตราร่างกฎหมายใหม่และกำหนดมาตรฐาน การคัดแยกขยะขั้นต่ำร่วมกันทั่วประเทศ นำระบบ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence - AI) มาใช้ควบคุมการขนส่งขยะอันตรายและขยะอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันการลักลอบทิ้ง
• ระยะบังคับใช้ (ปีที่ 3-4): ตั้งเป้าอัตรารีไซเคิลของประเทศต้องไม่น้อยกว่า 35% ทุกโครงการกำจัดขยะต้องได้รับใบอนุญาตมาตรฐานสิ่งแวดล้อม และเริ่มใช้กลไก การซื้อขายคาร์บอน (Carbon Credit) ในระบบจัดการขยะเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
• การจัดการปลายทาง: สนับสนุนเอกสารร่วมลงทุนในโรงไฟฟ้าขยะที่ได้มาตรฐานสูง ควบคู่กับการฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อนผ่าน กองทุนสิ่งแวดล้อม
กรอบงบประมาณและการลงทุน
นโยบายนี้คาดการณ์การลงทุนและค่าใช้จ่ายเพื่อเปลี่ยนผ่านระบบจัดการขยะทั้งประเทศ ดังนี้:
• งบลงทุน (CAPEX): 180,000 ล้านบาท สำหรับเทคโนโลยีเก็บขน การรีไซเคิล โรงไฟฟ้าขยะ และระบบจัดการเถ้า
• งบดำเนินงาน (OPEX): 26,300 ล้านบาท ต่อปี เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างต่อเนื่องและครอบคลุมพื้นที่ 100% ทั่วประเทศ