การศึกษาไทยกำลังเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้างที่ซับซ้อนและเรื้อรัง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยในระดับสากล:
• ความเหลื่อมล้ำทางโอกาสที่รุนแรง: โรงเรียนในเมืองและชนบทเข้าถึงทรัพยากรไม่เท่าเทียมกัน นักเรียนยากจนพิเศษมักขาดอุปกรณ์และอินเทอร์เน็ตที่เสถียรสำหรับการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล ในขณะที่โรงเรียนขนาดเล็กขาดแคลนห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์และครูวิชาเฉพาะทาง (ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา) ส่งผลให้ทักษะด้าน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (Science, Technology, Engineering, and Mathematics - STEM) ตกต่ำลง
• การศึกษาไม่เท่าทันโลก: หลักสูตรปัจจุบันยังเน้นการท่องจำ ขาดการบูรณาการทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) และทักษะแห่งอนาคตอย่างการเขียนชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ (Coding), วิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) และปัญญาประดิษฐ์ (AI)
• เครื่องมืออาชีวะที่ล้าสมัย: วิทยาลัยอาชีวศึกษาจำนวนมากยังใช้เครื่องจักรเก่าในการฝึกปฏิบัติ ทำให้ทักษะของบัณฑิตไม่สอดคล้องกับความต้องการของ อุตสาหกรรมยุค 4.0 (Industry 4.0) เช่น ระบบอัตโนมัติ (Automation) และยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
• การขาดความสมดุล: ระบบการศึกษามักละเลยด้านสังคมศาสตร์ ศิลปะ และกีฬา ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างพลเมืองที่สมบูรณ์ทั้งทางอารมณ์และสังคม
พรรคประชาชนจะจัดสรรงบประมาณ 50,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 4 ปี เพื่อยกระดับคุณภาพและความเสมอภาคทางการศึกษาทั่วประเทศ
โดยมุ่งเน้นการลงทุนดังนี้:
1. การเรียนรู้แบบเน้นลงมือทำ (Active Learning)
• จัดหาชุดอุปกรณ์ทดลองวิทยาศาสตร์มาตรฐานที่ใช้งานได้จริงให้แก่ทุกโรงเรียน
• สร้างศูนย์เรียนรู้ Coding และ พื้นที่สร้างสรรค์ (Maker Space) ในโรงเรียนแกนนำประจำอำเภอ เพื่อให้เด็กทุกคนเข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีไอที
2. พัฒนาความสามารถรอบด้าน
• ปรับปรุงห้องสมุดให้เป็นศูนย์เรียนรู้ที่ทันสมัย มีสื่อด้านพลเมืองโลกที่หลากหลาย
• จัดสร้างลานกีฬามาตรฐานและห้องสตูดิโอศิลปะที่มีอุปกรณ์ครบครัน พร้อมกองทุนสนับสนุนกิจกรรมนอกห้องเรียน
3. อัปเกรดอาชีวศึกษา
• ลงทุนจัดซื้อเครื่องมือและเครื่องจักรอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เช่น เครื่องจักรกลงานไม้และโลหะระบบคอมพิวเตอร์ (Computer Numerical Control - CNC), หุ่นยนต์อุตสาหกรรม, ชุดฝึกระบบ Internet of Things (IoT) และชุดฝึกระบบอัตโนมัติ เพื่อผลิตบุคลากรที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงได้ทันที
1. รายการลงทุนมาตรฐาน
• จัดทำบัญชีอุปกรณ์การเรียนการสอนมาตรฐานสำหรับโรงเรียนในโครงการ "เรียนฟรีจริง" โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมอื่นเพิ่มเติมจากผู้ปกครอง เพื่อประกันคุณภาพการศึกษาแม้ในพื้นที่ห่างไกล
• โรงเรียนสามารถเลือกรายการอุปกรณ์ที่จำเป็นตามมาตรฐาน และครูผู้สอนจะได้รับการฝึกอบรมทักษะการใช้งานอุปกรณ์นั้นๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการถ่ายทอดความรู้
2. มาตรฐานอุปกรณ์อาชีวศึกษา
• เกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำ: สถาบันอาชีวะใดที่ขาดแคลนเครื่องมือพื้นฐานตามรายวิชา สามารถขอรับงบลงทุนเพื่อจัดหาอุปกรณ์ให้ครบตามมาตรฐานได้ทันที
• เกณฑ์มาตรฐานขั้นสูง: สำหรับอุปกรณ์เทคโนโลยีระดับสูง สถาบันสามารถขอลงทุนได้โดยมีเงื่อนไข เช่น การวัดผลสัมฤทธิ์ของหลักสูตร หรือความร่วมมือในการผลิตบุคลากรร่วมกับภาคเอกชน
3. กระบวนการยั่งยืนและโปร่งใส
• ตรวจสอบและประเมินผลการใช้งานอุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่างบประมาณทุกบาทถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของผู้เรียนอย่างแท้จริง และส่งเสริมระบบนิเวศการเรียนรู้ที่เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก