ทำไมต้องแก้ปัญหา (WHY)
- การรุกคืบของทุนต่างชาติ: ธุรกิจไทยเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งจากแพลตฟอร์มดิจิทัลขนาดใหญ่และสินค้าราคาถูกที่เข้ามาตัดราคาจนทำลายอุตสาหกรรมการผลิตของไทย
- อุปสรรคเชิงโครงสร้าง: ปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคผลิตและบริการ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และภาวะหนี้ครัวเรือนที่ฉุดกำลังซื้อลงอย่างต่อเนื่อง
- SME รับศึกหนัก: ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ได้รับผลกระทบหนักกว่าธุรกิจใหญ่ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชั่วคราวไม่สามารถแก้ปัญหาระยะยาวได้ จึงต้องมีการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
พรรคประชาชนจะทำอะไร (WHAT)
1. ยกระดับ SME ด้วยเครื่องมือดิจิทัล: นำเทคโนโลยีอย่างซอฟต์แวร์บัญชี, ระบบขายหน้าร้าน (POS) และระบบจ่ายเงินออนไลน์ เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพและแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน พร้อมมาตรการปกป้อง SMEs ภายใต้กฎเกณฑ์การแข่งขันที่เป็นธรรม
2. สร้างอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศ: พัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลให้เป็นเครื่องยนต์การเติบโตตัวใหม่ (Growth Engine) เพื่อแก้ปัญหาคุณภาพชีวิตคนไทยผ่านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
ทำอย่างไรให้สำเร็จ (HOW)
1. ยกระดับธุรกิจ SME ไทยด้วยเครื่องมือดิจิทัล
- มาตรการจูงใจใช้บริการดิจิทัลของคนไทย (Thai First):
- ส่งเสริมการใช้ซอฟต์แวร์ เช่น บัญชี, POS, ระบบจัดการทรัพยากรองค์กร (ERP), ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) และ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence - AI) ของผู้ประกอบการไทย ตามบัญชีบริการของ DEPA
- ใช้มาตรการลดภาษีนิติบุคคล, คูปองส่วนลด (Voucher) และการเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินกู้
- กรอบเวลา: มาตรการภาษีทำได้ทันที, เพิ่มปริมาณคูปองในปีงบประมาณถัดไป
- ระบบหวยใบเสร็จ:
- จูงใจให้ SME จดทะเบียนนิติบุคคลและเข้าระบบภาษีอย่างถูกต้อง โดยผู้ซื้อสินค้ามีโอกาสลุ้นโชคจากใบกำกับภาษี เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเลือกซื้อของจากร้านที่เข้าระบบ
- กรอบเวลา: อนุมัติเข้า ครม. ได้ทันที, เตรียมระบบและใช้งานจริงภายใน 100 วันแรก
- ปกป้อง SME จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม:
- ใช้ พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า กำกับดูแลแพลตฟอร์มต่างชาติไม่ให้ทุ่มตลาด ตัดราคา หรือเอาเปรียบธุรกิจไทย และเร่งรัดกฎหมายฉบับใหม่
- กรอบเวลา: ดำเนินการตามกฎหมายเดิมได้ทันที, ออกประกาศฉบับย่อยใน 3-6 เดือน
2. สร้างอุตสาหกรรมเทคโนโลยีภายในประเทศ
- เปลี่ยนปัญหาเป็นอุตสาหกรรม:
- แก้ปัญหาคุณภาพชีวิต (ประปาสะอาด, รถเมล์ไฟฟ้า, มิเตอร์อัจฉริยะ) ด้วยเทคโนโลยีที่ผลิตในไทยและใช้ชิ้นส่วนในประเทศเป็นหลักเพื่อสร้างงานท้องถิ่น
- กรอบเวลา: ออกประกาศนโยบายได้ทันที, เริ่มเห็นผลในปีงบประมาณถัดไป
- สนับสนุนสตาร์ทอัพ (Startup) ไทยด้วยการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ:
- เลือกซื้อบริการดิจิทัลของคนไทยก่อนเพื่อลดการขาดดุลเทคโนโลยี และสร้างฐานการเติบโตให้สตาร์ทอัพไทยออกไปแข่งขันในระดับโลก
- กรอบเวลา: เริ่มในปีงบประมาณถัดไป, เห็นผลชัดเจนในปีที่ 3-4
- จูงใจเอกชนใช้ซอฟต์แวร์ไทย
- รัฐลงทุนพัฒนาซอฟต์แวร์มาตรฐาน (ERP, CRM, AI) ด้วยเทคโนโลยีรหัสเปิด (Open Source) และเปิดเผยซอร์สโค้ด (Source Code) ตามหลัก "เงินสาธารณะเพื่อรหัสสาธารณะ" (Public Code Public Money) เพื่อลดค่าลิขสิทธิ์ (License) ให้ภาคเอกชน
- กรอบเวลา: วางสเปกมาตรฐานใน 6 เดือนแรก, เริ่มพัฒนาซอฟต์แวร์สำคัญใน 1 ปีแรก
