การแทรกแซงจากการเมือง: ปัจจุบันสำนักงานประกันสังคมมีสถานะเป็นส่วนราชการ ทำให้การบริหารจัดการมักถูกแทรกแซงเพื่อตอบสนองนโยบายระยะสั้นของรัฐบาล (เช่น การลดอัตราเงินสมทบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ) ซึ่งขัดต่อหลักคณิตศาสตร์ประกันภัยและอาจทำให้กองทุนขาดเสถียรภาพในอนาคต
ขาดความโปร่งใสและตรวจสอบยาก: ผู้ประกันตนในฐานะเจ้าของเงินขาดกลไกการตรวจสอบการใช้อำนาจและการบริหารงบประมาณ นำไปสู่ปัญหาความไม่โปร่งใส เช่น การลงทุนที่น่าสงสัย การจัดซื้อจัดจ้างระบบไอทีราคาสูงเกินจริง และความพยายามลิดรอนอำนาจของผู้ประกันตนผ่านการแก้ไขระเบียบเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม
โครงสร้างระบบราชการที่เป็นอุปสรรค: ข้อจำกัดของระเบียบระบบราชการทำให้กองทุนขาดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ ไม่สามารถดึงดูดมืออาชีพเข้ามาบริหารพอร์ตการลงทุนได้เหมือนกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือกองทุนความมั่งคั่งในต่างประเทศ
เราเสนอให้มีการแก้ไข พระราชบัญญัติประกันสังคม เพื่อยกระดับให้กองทุนประกันสังคมมีความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล ยึดโยงกับผลประโยชน์ของผู้ประกันตนเป็นสำคัญ และปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานให้มีความเป็นมืออาชีพตามมาตรฐานสากล
แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ประกันสังคม โดยมีสาระสำคัญต่อไปนี้:
ปรับสถานะองค์กรให้มีความอิสระ: กำหนดให้สำนักงานประกันสังคมมีฐานะเป็นนิติบุคคลที่มีความเป็นอิสระในการบริหารจัดการ โดยมีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่ใช่ส่วนราชการและไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ เพื่อลดการแทรกแซงจากฝ่ายข้าราชการและการเมือง
คณะกรรมการต้องยึดโยงผู้ประกันตน: ปฏิรูปกระบวนการได้มา คุณสมบัติ และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการประกันสังคม คณะกรรมการลงทุน และคณะกรรมการการแพทย์ ให้ยึดโยงกับผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนและฝ่ายนายจ้างอย่างเป็นธรรมและมีส่วนร่วม
การเพิ่มสิทธิในการเข้าถึงข้อมูล: ตรากฎหมายกำหนดให้ผู้ประกันตน นายจ้าง และผู้มีส่วนได้เสีย มีสิทธิในการรับรู้และเข้าถึงข้อมูลการบริหารงาน การจัดซื้อจัดจ้าง ข้อมูลการส่งเงินสมทบของภาครัฐ และรายละเอียดบันทึกการประชุม และการดำเนินงานของคณะกรรมการทุกชุด อย่างเปิดเผยและโปร่งใส