ยกระดับความสามารถด้าน Digital และ AI ของไทย

พร้อมสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและซอฟต์แวร์ ด้วยการอัปเกรดทักษะแรงงาน ดึงทุนนอกตั้งฐานผลิตแบตเตอรี่และรถไร้คนขับ เพื่อรักษาฐานผลิตและซัพพลายเชนไทย

ยกระดับความสามารถด้าน Digital และ AI ของไทย

ทำไมต้องแก้ปัญหา (WHY)

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเข้าสู่ “การเปลี่ยนผ่าน" ครั้งใหญ่ในรอบหลายทศวรรษ จากรถยนต์สันดาป (ICE) สู่ยานยนต์อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและซอฟต์แวร์ ไทยต้องปรับตัวอย่างรอบด้านโดยคำนึงถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายในอุตสาหกรรมยานยนต์เดิม

1. การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด: 

  • ยานยนต์ปัจจุบันไม่ได้เปลี่ยนแค่ "เชื้อเพลิง" จากน้ำมันสู่ไฟฟ้า (EV) แต่กำลังเปลี่ยนสู่ ระบบขับขี่อัตโนมัติ หรือ รถยนต์ไร้คนขับ (self-driving car) ที่ช่วยลดอุบัติเหตุจากความผิดพลาดของมนุษย์ ขณะเดียวกันสามารถทำงานได้ตลอดเวลา ซึ่งจะตอบโจทย์การขาดแคลนแรงงานในการขับขี่บางประเภท-บางเส้นทาง
  • รถยนต์กลายเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ดาวเทียม และ IoT (Connected Car) เพื่อเพิ่มสมรรถภาพของรถยนต์ในแง่มุมต่างๆ 
  • รูปแบบการขนส่งเปลี่ยนเป็น mobility as a service ที่คนไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของรถเอง แต่แบ่งปันทรัพยากรรถยนต์เพื่อใช้เดินทาง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนนลงในระยะยาว

2. ความเสี่ยงของซัพพลายเชนเดิม: ไทยมีผู้ผลิตชิ้นส่วนและแรงงานนับแสนรายที่เชี่ยวชาญด้านเครื่องยนต์สันดาป เมื่อความต้องการทั่วโลกเปลี่ยนไป หากเราไม่ปรับตัว แรงงานเหล่านี้จะเผชิญภาวะว่างงานและโรงงานอาจต้องปิดตัวลง

เราจะทำอะไร (WHAT)

เรามีแนวนโยบายรับมือการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์แบบรอบด้าน ดังนี้

1. รักษาฐานผลิตเดิม เพิ่มเติมของใหม่:

  • ใช้จุดแข็งของการเป็นฐานการผลิตเดิม ขยายสู่การผลิตยานยนต์ยุคใหม่โดยไม่เลือกข้างเทคโนโลยีใดเทคโนโลยีหนึ่ง 
  • ให้ตลาดเป็นผู้ตัดสินว่าเทคโนโลยีใดคืออนาคต ไม่ใช่รัฐตัดสิน เพราะความต้องการของผู้ใช้งานมีความหลากหลาย เช่น รถส่วนบุคคลใช้เทคโนโลยีหนึ่ง รถเชิงพาณิชย์ใช้อีกเทคโนโลยี

2. ขยายความสามารถของผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย สู่อุตสาหกรรมข้างเคียง: 

  • สนับสนุนให้ผู้ผลิตในซัพพลายเชนเดิมขยายความสามารถไปสู่การผลิตชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมข้างเคียงที่ใช้ทักษะใกล้เคียงกัน เช่น ระบบราง, เครื่องจักรเกษตร, เครื่องมือแพทย์ และอากาศยาน 
  • รัฐบาลใช้มาตรการระหว่างประเทศช่วยเจรจาเปิดตลาดใหม่ๆ เช่น แอฟริกาและตะวันออกกลาง

3. พัฒนาทักษะแรงงานยานยนต์ไทย สู่งานอิเล็กทรอนิกส์และซอฟต์แวร์: 

  • เร่งพัฒนาทักษะแรงงานยานยนต์ไทยจากเดิมที่เชี่ยวชาญด้าน "เครื่องกล" ให้เปลี่ยนผ่านสู่ทักษะด้าน "อิเล็กทรอนิกส์และซอฟต์แวร์" ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของยานยนต์ยุคหน้า เพื่อความอยู่รอดของแรงงานไทยในยุคถัดไป

 

ทำอย่างไรให้สำเร็จ (HOW)

  1. "บอร์ดยานยนต์อนาคต": เปลี่ยนคณะกรรมการนโยบายรถยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) เป็น "บอร์ดยานยนต์อนาคต" ให้ดูแลครอบคลุมยานยนต์ทุกประเภทที่ผ่านมาตรฐานด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยไม่ได้ดูแลแค่ยอดขายรถยนต์เท่านั้น แต่ยังรับผิดชอบไปถึงห่วงโซ่การผลิต (ซัพพลายเชน) และความเป็นอยู่ของแรงงานทั้งระบบ
  2. ดึงการลงทุนพร้อมเงื่อนไขพัฒนาไทย: เร่งเจรจากับบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทั่วโลก (ญี่ปุ่น, จีน, ยุโรป, อเมริกา) โดยใช้สิทธิประโยชน์ภาษีและ BOI เป็นเครื่องมือจูงใจ แต่มีเงื่อนไขสำคัญคือต้องใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในไทย (Local Content) และต้องมีการพัฒนาทักษะแรงงานไทยร่วมด้วย
  3. ยุทธศาสตร์แบตเตอรี่ครบวงจร: สร้างขีดความสามารถในการผลิตแบตเตอรี่เองในประเทศเพื่อเป็นแกนกลางของทุกเทคโนโลยีรถยนต์ โดยดึงต่างชาติมาลงทุนในช่วงแรก และต้องคำนึงถึงการจัดการแบตเตอรี่ใช้แล้ว ซึ่งจะเกี่ยวเนื่องกับนโยบายพลังงานด้านการจัดเก็บพลังงาน (energy-storage) จากพลังงานแสงอาทิตย์ด้วย (นำไฟที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์เซลล์มาเก็บในแบตเตอรี่เก่า สามารถใช้ไฟจากแบตเตอรี่ตามความต้องการ)
  4. โครงการ "รถเก่าแลกรถใหม่": สนับสนุนการถอดรถเก่าออกจากท้องถนนเพื่อลดมลพิษ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีรุ่นใหม่ เช่น รัฐนำร่องใช้รถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในหน่วยงานราชการทั้งหมด แจกคูปองส่วนลดให้ประชาชนใช้เปลี่ยนรถยนต์เก่าเป็นรถรุ่นใหม่ที่สะอาดกว่า
  5. ศูนย์พัฒนารถยนต์ไร้คนขับพวงมาลัย: ชิงความได้เปรียบจากการที่สหรัฐฯ และจีนใช้รถพวงมาลัยซ้าย โดยเปิดพื้นที่ให้ไทยเป็น "ศูนย์กลางทดสอบรถยนต์ไร้คนขับระบบพวงมาลัยขวา" เพื่อให้บริษัทรถยนต์นำไปขยายผลต่อในประเทศพวงมาลัยขวาอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย
  6. ปฏิรูปแรงงานและทักษะ STEM: เร่งฝึกทักษะใหม่ (Upskill/Reskill) โดยเฉพาะทักษะการผลิตชิ้นส่วนไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และซอฟต์แวร์ พร้อมปรับปรุงระบบการศึกษา เพิ่มอุปกรณ์การเรียนที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า ผลิตกำลังคนด้าน STEM เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมที่กำลังเปลี่ยนไป